กระจก Sapphire นั้น ผลิตจากแซพไฟร้สังเคราะห์ คอรันดัมหรือ อะลูมิเนียมออกไซด์ มีความแข็งระดับ 9 ตาม ‘Moh Scale’ ทนรอยขีดข่วนได้ดีมาก แต่ถ้ามีการกระแทกหอโดนมแทงอย่างแงในบางทิศทางก็จะทำให้แตกละเอียดเป็นชื้นเล็กชื้นน้อยได้ แซพไฟสังเคราะห์นี้มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าแซพไฟร้ที่เป็นอัญมณีธรรมชาติมากมายหลายเท่า โดยอาจจะซื้อหาได่ใน ราคาหลักร้อยบาท นาฬิกาที่ใช้คริสตัลแซพไฟร์เป็นกระจกหน้าปัดนั้นมี อาทิ Rolex Day-Date (โรเล็กซ์ เดย์เดท) ตั้งแต่รุ่นปี 1980 เป็นต้นมา Omega Speedmaster Broad Arrow (โอเมก้า สปีดมาสเตอร์ บรอด แอร์โรว์) ที่ใช้กลไก Cal.3303 หรือ Rolex Datejust Ref.16013 แล Panerai Marina (พาเนอไร มารินา) Ref.PAM111 เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีนาฬิกรุ่นปัจจุบันอีกหลายร้อยหลายพัน โดยคริสตัลแซพไฟร่มีความใสมากสุด และมีต้นทุนการผลิตสูงสุด
CIGA Design X Series – Machina Automatic Mechanical Watch หรือ นาฬิกาออโตเมติกซิก้า ดีไซน์ รุ่น X Series – Machina ของแท้จาก CIGA Design ด้วยนิยามใหม่ของการออกแบบรูปทรงตัว X โดดเด่น ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับระบบการทำงาน CIGA Design CD01 Original Movement ตัวเรือนแบบสองชั้น มองเห็นทุกกลไกการทำงาน และระบบ Anti-Shock เรือนแรกของโลก ที่ผนึกด้วยสปริงทั้งสี่มุมที่ช่วยป้องกันการสั่นสะเทือน ตัวเรือนใช้วัสดุเซรามิกและหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน สัญลักษณ์บอกเวลาที่เรืองแสงในเวลากลางคืน ด้วยเทคโนโลยีจาก Swiss Super LumiNova® และเม็ดมะยมสลักรูปตัว C โดดเด่น สวยงาม แถมตัวเรือนและสายสีพาสเทลที่ดูน่ารักอีกด้วย
