การลงทุนในนาฬิกาทอง (หรือที่มีส่วนประกอบของทองคำแท้ เช่น ทองคำ 18k) อาจดูคุ้มค่ากว่านาฬิกาสแตนเลสในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะในเชิงมูลค่าระยะยาวและความหายาก ลองดูเหตุผลเหล่านี้
- มูลค่าวัสดุ (Intrinsic Value)
-นาฬิกาทอง ทำจากทองคำ ซึ่งเป็นโลหะมีค่าที่มีมูลค่าตลาดและสามารถขึ้นลงตามกลไกเศรษฐกิจ
-สแตนเลส แม้จะทนทานแต่ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่าทอง และไม่สามารถรีไซเคิลขายต่อเป็นเงินได้เท่าทอง - ความหายากและผลิตน้อยกว่า
-นาฬิกาทองมักผลิตในจำนวนจำกัด ทำให้หายากกว่า ซึ่งส่งผลต่อราคาขายต่อ
-ผู้สะสมจำนวนมากต้องการนาฬิกาทองจากแบรนด์ดัง เช่น Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet เป็นต้น เพราะ rarity (ความหายาก) = มูลค่า - ราคาขายต่อ (Resale Value) และการเพิ่มมูลค่า
-นาฬิกาทองบางรุ่น ราคาขึ้นทุกปี โดยเฉพาะถ้ารุ่นนั้นเลิกผลิตแล้ว หรือมีความนิยมสูง
-สแตนเลสมักมีราคาคงที่ หรือขึ้นเล็กน้อยในบางรุ่นเท่านั้น (ยกเว้นรุ่นหายากเช่น Daytona หรือ Nautilus) - ภาพลักษณ์และความหรูหรา
-นาฬิกาทองสื่อถึง “ความมั่งคั่ง” และสถานะทางสังคม
-มีความคลาสสิกและเป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนที่มองนาฬิกาเป็น luxury asset
แต่ต้องระวัง:
ทองมีน้ำหนักมากกว่าสแตนเลส อาจไม่เหมาะกับคนที่ใส่สบายๆ ทุกวัน
นาฬิกาทองอาจเกิดรอยง่ายกว่าสแตนเลสในบางกรณี
ราคาทองผันผวนตามเศรษฐกิจโลก
ถ้าคุณมองการลงทุนระยะยาว และสนใจนาฬิกาที่ มีมูลค่าในตัวเอง, มีความหายาก, และ ขายต่อได้ราคาดี นาฬิกาทองคือคำตอบที่น่าสนใจ